• ประวัติศาสตร์

ตำนานเสือเยน

วัดหมื่นสารที่เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองเชียงใหม่ เป็นวัดเดียวของเมืองที่มีตำนานเกี่ยวกับเสือเยน หรือเสือสมิง ที่เชื่อกันว่าเกิดจากการเล่นคาถาอาคมเกี่ยวกับเสือ แต่เมื่อแก่ตัวลงทำให้ไม่สามารถควบคุมอาคมไว้ไม่อยู่ทำให้คนๆนั้นกลายเป็นเสือเยน บางตำนานก็เล่าว่าเมื่อเสือที่กินคนเข้าไปมากๆ วิญญาณคนจะเข้าไปสิงในร่างเสือจนสามารถแปลงร่างกลายเป็นคนได้ ดังนั้นเสือเยนจึงเป็นที่หวาดกลัวของคนล้านนาในสมัยนั้น

ตำนานเกี่ยวกับเสือเยนเล่ากันว่ามีเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งที่มีอายุมากแล้ว และเป็นผู้มีอายุมากแล้วและเป็นผู้ได้ร่ำเรียนวิชาอาคมเก่งกล้าอีกทั้งไม่ชอบอาบน้ำ และในวัดนี้มักจะมีเณรและเด็กวัดหายไปเป็นประจำโดยไม่ทราบสาเหตุจึงทำให้วัดเหลือเจ้าอาวาสแต่เพียงผู้เดียว และเมื่อมีพ่อค้าวัวต่างมาพักค้างคืนที่วัดนี้ก็มักจะถูกเสือกิน

วันหนึ่งมีพ่อค้าวัวต่างมาพักค้างคืนที่วัดนี้ และได้รับคำเตือนจากชาวบ้านให้ระวังเสือแต่พ่อค้าวัวต่างไม่กลัวเพราะถือว่าตนเองก็มีวิชาอาคมเหมือนกัน พอตกดึกพ่อค้าวัวต่าได้ยินเสียงตะโกนถามว่า ‘พ่อออกๆ หลับหรือยัง’ พ่อค้าวัวต่างตอบว่า ‘ยังไม่หลับ’ ในขณะเดียวกันก็เตรียมไม้ไผ่มาจักสานเป็นควายธนู ซึ่งเป็นของขลังชนิดหนึ่ง ทำเป็นรูปตัวควายหรือเขาควาย ใช้เวทมนตร์ทางไสยศาสตร์เสกเป่าไปทำร้ายผู้อื่นหรือกันไม่ให้ผู้อื่นมาทำร้าย

พอถึงกลางดึกพ่อค้าได้ยินเสือร้องที่หน้าประตูวิหาร จึงรู้ว่าเสือเยนออกล่าเหยื่อแล้ว จึงปล่อยควายธนูออกไปต่อสู้ สัตว์อาคมทั้งคู่คือเสือเยนและควายธนูได้ต่อสู้กันอย่างดุเดือดสักพักใหญ่ หลังจากนั้นได้ยินเสียงเสือร้องอย่างเจ็บปวด พอรุ่งเช้าเมื่อเปิดประตูวิหารจึงพบว่ามีเสือนอนตายอยู่ และที่หลังวิหารก็พบกระดูกคนและสัตว์มากมาย

บางตำนานเล่าว่าได้มีการประกาศหาคนที่มีวิชาอาคมมาปราบเสือเยน และในที่สุดก็มีพ่อค้าหมูเป็นผู้อาสาปราบเสือเยน โดยได้วางอุบายเข้าไปนอนในโบสถ์ พอตกกลางคืนก็มีเสือเยนมาถามว่าหลับหรือยัง ซึ่งพ่อค้าหมูก็ตอบว่ายังไม่หลับ พร้อมทั้งสานไม้ไผ่เป็นควายธนูและปลุกเสกไปด้วย เสือเยนเวียนมาถามถึงสามรอบ และในรอบที่สามพ่อค้าหมูแกล้งทำเป็นหลับไม่ตอบกลับ เสือเยนจึงเปิดประตูโบสถ์เข้ามาซึ่งพอดีกับพ่อค้าหมูปล่อยควายธนูออกไป ซึ่งควายธนูได้ขวิดเสือเยนจนถึงแก่ความตาย (สมโชติ อ๋องสกุล, 2558)

ตำนานเรื่องเสือเย็นนี้ชาวบ้านเชื่อกันว่าวัดแห่งนั้นคือวัดหมื่นสาร และในอดีตที่หน้าวัดหมื่นสารมีรูปปั้นเสืออยู่แต่ต่อมาถูกรื้อไป ปัจจุบันที่เจดีย์วัดหมื่นสารจะมีรูปปั้นเสือคาบคนปรากฏให้เห็นอยู่

ควายธนู เป็นเครื่องรางตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ สะท้อนให้เห็นระบบความเชื่อทางไสยศาสตร์ของสังคมเกษตรกรรม ที่มีความผูกพันกับวัฒนธรรมข้าว ซึ่งเลี้ยงวัวควายไว้ใช้งานในด้านการเกษตร วิชาเหล่านี้เป็นการทำหุ่นพยนต์รูปแบบต่างๆ ซึ่งทำได้ทั้งรูปคนและสัตว์ ที่นิยมมีทั้งวัวธนูและควายธนู สามารถสร้างได้หลายวิธี เช่น สานจากไม้ไผ่ ปั้นด้วยดินผสมมวลสาร ปั้นจากขี้ผึ้ง ไปจนถึงหล่อขึ้นด้วยโลหะอาถรรพ์ เชื่อว่าสามารถใช้ให้เฝ้าบ้านหรือไร่นา ใช้งานได้ตามความประสงค์ เพื่อป้องกันภูตผีและโจรผู้ร้าย และสามารถสั่งให้ไป
สังหารคู่อริได้อีกด้วย