ลักขณา ศรีหงส์

บทสัมภาษณ์คุณ ลักขณา ศรีหงส์
วันที่สัมภาษณ์ 5 มิถุนายน 2563

จุดเริ่มต้นของการทำงานประชาสังคม

สมัยเรียนคุณลักขณาทำกิจกรรมด้านวรรณศิลป์ ได้มีโอกาสพบคุณประชา หุตานุวัตร นักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางสังคมที่อาศรมวงศ์สนิท และได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการทำงานเพื่อสังคม

ในปี 2541 คุณลักขณาได้เข้าไปทำธุระที่มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.) และเห็นประกาศรับสมัครอาสาสมัครวันสุดท้ายจึงได้ตัดสินใจกรอกใบสมัครโดยที่ตอนนั้นยังไม่มีพื้นฐานหรือความรู้ทางด้านงานสังคมแต่มีความสนใจในเรื่องเมืองเป็นอย่างมาก

การทำงานในภาคประชาสังคม

จากนั้น คุณลักขณาจึงได้เริ่มต้นการทำงานเป็นอาสาสมัครโดยเลือกมาทำงานอาสาสมัครที่ชุมชนคนรักป่า จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในตอนนั้นทำงานร่วมกับมูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ โดยหน้าที่เริ่มต้นในตอนนั้น คือการรับสมัครสมาชิก พาประชาชนทั่วไปเยี่ยมชมป่าชุมชน ซึ่งในระหว่างการทำงานก็ได้รับความรู้และแนวคิดในการทำงานอันหลากหลายแง่มุมจากผู้คนที่ได้มีโอกาสทำงานร่วมกัน นอกจากนี้ในช่วงเวลานั้นชมรมคนรักป่าได้มีการผลักดัน พรบ.ป่าชุมชน คุณลักขณาจึงได้มีโอกาสทำความเข้าใจใน พรบ. อันนี้

หลังจากเริ่มต้นการทำงานจนครบวาระ 2 ปี ในปี 2543 คุณลักขณาก็ได้รับโอกาสในการทำงานต่อในชุมชนคนรักป่า ซึ่งในช่วงนี้ก็ได้รับงานสำคัญในการให้ความรู้ เชื่อมโยงคนจากสาขาอาชีพต่าง ๆ ให้หันมาสนับสนุน พรบ.ป่าชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านมีสิทธิ์ในการจัดการป่ากันเอง โดยได้พาคนเมืองเข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้กับชาวบ้านที่มีหน้าที่ดูแลป่าชุมชน ซึ่งทำให้ค่อย ๆ เรียนรู้การทำงานทางด้านสังคมทีละเล็กละน้อย จนได้มีโอกาสทำความรู้จักอาจารย์ชยันต์ วรรธนะภูติ และอาจารย์อรรถจักร สัตยานุรักษ์ ส่งผลให้เห็นแนวทางการทำงานของนักวิชาการ ชาวบ้าน NGO ซึ่งทำงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพ

จากนั้นในปี 2548 ได้ทำงานร่วมกับคุณชัชวาล ทองดีเลิศ กลุ่มภาคีคนรักเชียงใหม่ซึ่งร่วมตัวกันเนื่องจากโครงการเมกะโปรเจคเชิงดอยสุเทพ

ต่อมา ปี 2552 เริ่มทำ “เชียงใหม่ เขียว สวย หอม” เนื่องจากในจังหวัดเชียงใหม่เริ่มมีปัญหาหมอกควันในขณะนั้น ซึ่งมีความพยายามใช้พื้นที่สีเขียวเป็นเครื่องมือในการเข้าไปทำงานกับชุมชน ในตอนแรกของการเริ่มทำงานนั้น ได้ร่วมทำงานกับเทศบาลนครเชียงใหม่ ผู้ที่ทำโครงการ SE (Social Enterprise) และเครือข่ายของคนรู้จักระหว่างการทำงานในชมรมคนรักป่า และภาคีคนรักเชียงใหม่ โดยในช่วงการเริ่มต้นของการทำงานนั้นยังไม่มีงบประมาณใด ๆ เข้ามาสนับสนุน

จนกระทั่งในปี 2553 โครงการของเชียงใหม่ เขียว สวย หอม จึงได้รับความช่วยเหลือจาก หน่วยวิจัยการฟื้นฟูป่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (FORRU-CMU) โดยเน้นเครือข่ายการเรียนรู้จากหลากหลายบุคคลและองค์กร เพื่อทำเรื่องเกี่ยวกับต้นไม้และพื้นที่สีเขียว นอกจากนี้ยังได้รับคำแนะนำให้ของบประมาณจาก พอช. (สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน) สำหรับทำเรือนเพาะชำชุมชนเพื่อหาวิธีฟื้นฟูป่าด้วยวิธีพรรณไม้โครงสร้าง อีกทั้งยังได้ทุนจากเชียงใหม่เอี่ยมและหอศิลปวัฒนธรรมเชียงใหม่ในการทำโครงการอื่น ๆ เพิ่มเติม

ในปี 2554 ได้รับงบจากกองทุนสิ่งแวดล้อม เพื่อทำโครงการการจัดการต้นไม้ใหญ่และพื้นที่สีเขียวในบริบทเมืองเก่าเชียงใหม่

ปี 2555 คุณลักขณาได้เข้าร่วมและประสานกิจกรรม 120 วัน ขับเคลื่อนเชียงใหม่จัดการตนเอง ซึ่งมีการรณรงค์รอบคูเมืองเชียงใหม่และเชิญเครือข่ายต่าง ๆ ในภาคประชาชนมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันหน้าบริเวณศาลแขวง

จากนั้นได้เริ่มทำโครงการ การจัดการต้นไม้ใหญ่และพื้นที่สีเขียวในบริบทเมืองเก่าเชียงใหม่ ซึ่งมีโอกาสได้รับความรู้ครั้งสำคัญในด้านการพัฒนา ส่งผลให้การจัดการพื้นที่สีเขียวและต้นไม้เปลี่ยนไป โดยต้นไม้หรือพื้นที่สีเขียวในเมืองนั้นปลูกผิดที่ผิดทาง และขาดซึ่งความรู้และกำลังคนในการดูแลรักษาให้สวยงาม ทำให้การจัดการพื้นที่สีเขียวในแต่ละพื้นที่จึงแตกต่างกันตามแต่ละบริบทของพื้นที่

ในเวลาต่อมาได้ริเริ่มทำโครงการสวนผักรักเมือง โดยได้เชิญมูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืนซึ่งเคยประสบความสำเร็จในการทำสวนผักคนเมืองที่กรุงเทพฯ ให้มามีส่วนร่วมในการทำเวิร์คช็อปเกี่ยวกับการปลูกผักกินเองในเมือง โดยเฉพาะผักออแกนิค ซึ่งเข้ากับ เชียงใหม่ เขียว สวย หอม ที่มีโครงการเกี่ยวกับพื้นที่สีเขียวและการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่วนผักก็คือพื้นที่สีเขียวที่กินได้

ในปี 2559 คุณลักขณาและเชียงใหม่เขียวสวยหอมทำหน้าที่เป็นหน่วยเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานท้องถิ่นและคนในชุมชน กับ ทสจ. (สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด) ในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของต้นไม้โดยเฉพาะระบบรากเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาต้นไม้ทั่วประเทศ เนื่องจากในตอนนั้นเกิดเหตุการณ์ต้นยางนาล้มทับที่อยู่อาศัยของคนในพื้นที่เพราะผลของพายุ ซึ่งเมื่อทำการตรวจสอบจึงพบว่าต้นยางนาที่ล้มไม่มีรากที่แข็งแรงเนื่องจากปัญหาการจัดการต้นไม้ใหญ่

และในปี 2563 มีโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่คือ “เชียงใหม่ เขียว สวย หอม” โครงการ “เขียวชมเมือง” ที่มีที่มาจากการชมนกชมไม้ของเชียงใหม่เอี่ยม และโครงการสวนผักรักเมือง